เคล็ดลับง่ายๆ สู่สมดุลสุขภาพที่ดีกว่า เริ่มต้นที่การดูแลระดับ น้ำตาลในเลือด ให้คงที่

เนื้อหา

เคล็ดลับง่ายๆ สู่สมดุลสุขภาพที่ดีกว่า: เริ่มต้นที่การดูแลระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่

การดูแลสุขภาพให้ดีไม่ได้หมายถึงการออกกำลังกายหรือรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพียงอย่างเดียว แต่การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอก็เป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันและรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและโรคเบาหวาน การตรวจสุขภาพสามารถช่วยให้เราทราบถึงระดับน้ำตาลในเลือดและความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้หากไม่ดูแลระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเหมาะสม

การตรวจสุขภาพที่สำคัญสำหรับการป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

การตรวจสุขภาพประจำปีไม่เพียงแต่ช่วยให้เราทราบถึงระดับน้ำตาลในเลือด แต่ยังเป็นการตรวจหาสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การตรวจสุขภาพควรรวมถึงการตรวจเลือดเพื่อตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดและค่าตัวชี้วัดที่สำคัญอื่นๆ ที่สามารถบ่งบอกถึงสุขภาพของร่างกายได้ เช่น ค่าคอเลสเตอรอล ระดับไขมันในเลือด และการทำงานของตับและไต ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถสะท้อนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่

1. การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด

การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นหนึ่งในการตรวจที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือโรคเบาหวาน การตรวจสามารถทำได้ในหลายวิธี:

  • การตรวจน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร (Fasting Blood Sugar Test): เป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปในการตรวจหาภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ควรงดอาหารอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนการตรวจ หากค่าระดับน้ำตาลอยู่ในช่วง 100-125 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หมายถึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน หากมากกว่า 126 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร นั่นคือการเริ่มต้นของโรคเบาหวาน
  • การตรวจระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (Hemoglobin A1c Test): การตรวจนี้เป็นการประเมินค่าเฉลี่ยของระดับน้ำตาลในเลือดในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ค่า A1c สูงกว่า 6.5% บ่งบอกถึงภาวะเบาหวาน การตรวจแบบนี้ช่วยให้แพทย์เห็นภาพรวมของการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดระยะยาว
  • การตรวจน้ำตาลในเลือดแบบทันที (Random Blood Sugar Test): การตรวจน้ำตาลแบบนี้ไม่จำเป็นต้องอดอาหารก่อน การวัดค่าที่เกินกว่า 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรอาจบ่งบอกถึงโรคเบาหวาน และจำเป็นต้องทำการตรวจเพิ่มเติม

2. การตรวจระดับไขมันในเลือด

ผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือเป็นเบาหวานมักมีปัญหาเกี่ยวกับระดับไขมันในเลือด เช่น คอเลสเตอรอลสูง ซึ่งสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ การตรวจระดับไขมันในเลือดจะรวมถึงการวัดระดับ LDL (ไขมันไม่ดี) และ HDL (ไขมันดี) การรักษาระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติเป็นสิ่งที่สำคัญไม่เพียงแต่สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน แต่สำหรับทุกคน

3. การตรวจการทำงานของตับและไต

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะภายใน เช่น ตับและไต การตรวจเลือดเพื่อประเมินการทำงานของตับและไตสามารถช่วยให้เราทราบถึงสัญญาณของการเสื่อมสภาพของอวัยวะเหล่านี้ได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะไตวายเรื้อรังหรือการอักเสบของตับ

4.การตรวจความดันโลหิต

ผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือเป็นโรคเบาหวานมักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะความดันโลหิตสูงร่วมด้วย การตรวจความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

5. การตรวจสายตา

ปัญหาทางสายตาเป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่มักพบในผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูงอาจส่งผลต่อเลนส์ตา ทำให้เกิดภาวะเบาหวานขึ้นตา การตรวจสายตาเป็นประจำทุกปีจะช่วยให้เราทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของดวงตาและป้องกันการสูญเสียการมองเห็นในระยะยาว

  • ความสำคัญของการตรวจสุขภาพประจำปีการตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แม้ว่าคุณจะรู้สึกว่าร่างกายยังแข็งแรงดี การตรวจสุขภาพเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นการป้องกันโรคเบาหวาน การตรวจอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เรารู้ทันการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและสามารถรับการรักษาได้ทันท่วงทีการทบทวนปัจจัยเสี่ยงที่ควรระวังในการดูแลสุขภาพและการป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ควรมีการทบทวนปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคเบาหวานหรือมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น:
    • พันธุกรรม: หากมีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นโรคเบาหวาน ควรระวังและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันความเสี่ยง
    • อายุที่เพิ่มขึ้น: ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้น ดังนั้น การตรวจสุขภาพเป็นประจำเมื่ออายุเพิ่มขึ้นเป็นสิ่งสำคัญ
    • พฤติกรรมการใช้ชีวิต: การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง ขาดการออกกำลังกาย หรือการบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

    วิธีการป้องกันเพิ่มเติมในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

    นอกจากการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอแล้ว เรายังสามารถป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้โดยการปฏิบัติตามแนวทางสุขภาพเหล่านี้:

    • เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ: ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูงและเลือกทานอาหารที่มีไฟเบอร์ เช่น ผักและผลไม้ เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
    • ออกกำลังกายเป็นประจำ: การออกกำลังกายช่วยในการเผาผลาญน้ำตาลและช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น
    • หลีกเลี่ยงความเครียด: ความเครียดอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ควรหาวิธีผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิหรือการฝึกหายใจ
    • พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับที่เพียงพอส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินในร่างกาย ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน

    การตรวจสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

    การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันและจัดการภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยในการตรวจหาความผิดปกติของระดับน้ำตาลในเลือด แต่ยังสามารถช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาทันท่วงที นอกจากการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับน้ำตาลแล้ว ยังมีการตรวจอื่นๆ ที่มีความสำคัญในการประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้อง

    การตรวจหาค่าคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือด

    ระดับไขมันในเลือดที่สูงเกินไป เช่น คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ สามารถเป็นตัวบ่งชี้ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งมักจะสัมพันธ์กับโรคเบาหวาน ผู้ป่วยที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงมักพบว่ามีระดับไขมันในเลือดที่ไม่สมดุล ดังนั้น การตรวจหาค่าคอเลสเตอรอลและระดับไขมันในเลือดจะช่วยให้แพทย์สามารถปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมมากขึ้น

    การตรวจการทำงานของหัวใจ

    โรคเบาหวานเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเรื้อรังสามารถทำให้เกิดการอุดตันของหลอดเลือด การตรวจการทำงานของหัวใจด้วยการทำ ECG หรือการทดสอบสมรรถภาพหัวใจ (Stress Test) จะช่วยให้แพทย์ตรวจพบภาวะหัวใจขาดเลือดหรือการทำงานของหัวใจที่ผิดปกติ

    การตรวจระดับน้ำตาลในปัสสาวะ

    การตรวจปัสสาวะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ในการตรวจหาภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หากมีน้ำตาลปนอยู่ในปัสสาวะ แสดงว่าร่างกายอาจไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีพอ นอกจากนี้ การตรวจปัสสาวะยังช่วยในการตรวจหาคีโตน ซึ่งเป็นสารที่เกิดจากการเผาผลาญไขมันของร่างกายในกรณีที่ร่างกายขาดอินซูลิน

    การดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันเพื่อลดความเสี่ยงจากน้ำตาลในเลือดสูง

    การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันและจัดการภาวะน้ำตาลในเลือดสูง นอกจากการตรวจสุขภาพแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลตนเองในชีวิตประจำวันยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล

    การเลือกอาหารที่มีประโยชน์และเหมาะสม

    อาหารมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงหรือน้ำตาลสูงมากเกินไปจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น การเลือกอาหารที่มีประโยชน์และมีคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยช้า เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ผักใบเขียว และอาหารที่มีใยอาหารสูง จะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ได้มากกว่า นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลทรายขาวและอาหารที่มีไขมันทรานส์สูง เช่น ขนมอบสำเร็จรูปหรืออาหารทอด

    ตัวอย่างของอาหารที่ควรเลือกบริโภค:

    • ผักใบเขียว: ผักคะน้า ผักโขม บรอกโคลี ล้วนมีใยอาหารสูงและช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
    • ธัญพืชไม่ขัดสี: เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และขนมปังโฮลวีต ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ย่อยช้า
    • ผลไม้ที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ: เช่น แอปเปิล เบอร์รี่ ฝรั่ง และมะละกอ ควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียนและลำไย
    • แหล่งโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ: เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลา ถั่ว และเมล็ดธัญพืช อาหารเหล่านี้มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ ซึ่งช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่

    การออกกำลังกายเป็นประจำ

    การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนอินซูลิน และช่วยเผาผลาญพลังงานจากน้ำตาลในเลือด การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินเร็ว การวิ่งเบาๆ การปั่นจักรยาน หรือการว่ายน้ำ จะช่วยให้ร่างกายสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดียิ่งขึ้น

    แนะนำให้มีการออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน หากคุณมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มการออกกำลังกายเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม

    การจัดการความเครียด

    ความเครียดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด เมื่อเรามีความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น หากคุณรู้สึกว่าความเครียดมีผลต่อสุขภาพ ควรหาวิธีการจัดการความเครียด เช่น การทำสมาธิ การหายใจลึกๆ การทำโยคะ หรือการพูดคุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวเพื่อระบายความเครียด

    การพักผ่อนที่เพียงพอ

    การนอนหลับที่เพียงพอและมีคุณภาพส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เช่น อินซูลิน ทำงานได้ดีเมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ หากนอนไม่พอหรือนอนไม่เป็นเวลา จะทำให้ร่างกายเกิดความเครียดและส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่

    การตรวจสุขภาพและการติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ

    การตรวจสุขภาพเป็นประจำและการติดตามผลการตรวจอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลในเลือดสูง การตรวจติดตามระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำจะช่วยให้แพทย์และผู้ป่วยสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการรักษาหรือแผนการดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม

    การจดบันทึกผลการตรวจสุขภาพ

    การจดบันทึกผลการตรวจสุขภาพและระดับน้ำตาลในเลือดจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างใกล้ชิด และสามารถแสดงข้อมูลต่อแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการรักษาอย่างเหมาะสมมากขึ้น การจดบันทึกสามารถทำได้โดยการเขียนลงในสมุดบันทึกหรือใช้แอปพลิเคชันสำหรับการติดตามสุขภาพ

    การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ

    หากพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นหรือมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจเพิ่มเติมและคำแนะนำในการรักษา อย่าละเลยอาการเล็กๆ น้อยๆ เช่น อาการเหนื่อยง่ายหรือกระหายน้ำบ่อยๆ เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

    ความสำคัญของการตรวจสุขภาพเชิงป้องกัน

    การตรวจสุขภาพเชิงป้องกันเป็นการตรวจหาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถรับมือกับโรคที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทันท่วงที การตรวจสุขภาพเป็นประจำสามารถช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดหรือลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้

    สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน การตรวจสุขภาพเชิงป้องกันจะมุ่งเน้นไปที่การตรวจหาค่าระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจปัสสาวะ และการตรวจวัดไขมันในเลือด นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำให้ทำการตรวจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินการทำงานของตับ ไต และหัวใจ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

    การตรวจสุขภาพเฉพาะทางสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงโรคเบาหวาน

    นอกจากการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว การตรวจสุขภาพเฉพาะทางก็มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพของผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือโรคเบาหวาน ตัวอย่างเช่น การตรวจการทำงานของไตเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากโรคเบาหวานสามารถทำให้เกิดภาวะไตเสื่อมได้ หากระดับน้ำตาลในเลือดไม่ถูกควบคุมอย่างเหมาะสมในระยะยาว การตรวจวัดการกรองของไต (eGFR) จะช่วยประเมินการทำงานของไต และการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารอัลบูมิน (Albumin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่สามารถรั่วออกมาทางปัสสาวะในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต

    อีกหนึ่งการตรวจที่สำคัญคือการตรวจสุขภาพสายตา ผู้ป่วยที่มีโรคเบาหวานควรตรวจสุขภาพตาเป็นประจำเพื่อตรวจหาภาวะเบาหวานขึ้นตา ซึ่งเป็นภาวะที่สามารถนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การตรวจจอประสาทตา (Retinal Examination) เป็นการตรวจที่ช่วยให้แพทย์สามารถประเมินความเสื่อมของจอประสาทตาและหลอดเลือดในตาที่เกิดจากน้ำตาลในเลือดสูงได้

    การติดตามและการปรึกษาแพทย์อย่างต่อเนื่อง

    เมื่อได้รับการตรวจสุขภาพและพบว่ามีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหรือความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน ควรติดตามผลการตรวจและเข้าพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับแผนการรักษาหรือดูแลสุขภาพ แพทย์อาจแนะนำให้มีการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างต่อเนื่องที่บ้าน รวมถึงการปรับเปลี่ยนยา อาหาร และพฤติกรรมการใช้ชีวิตตามความเหมาะสม

    การติดตามผลสุขภาพอย่างต่อเนื่องยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ โรคไต และภาวะเส้นเลือดตีบในผู้ที่มีโรคเบาหวาน นอกจากนี้ หากมีอาการผิดปกติ เช่น อาการชาในปลายมือปลายเท้า หรือการมองเห็นไม่ชัดเจน ควรแจ้งแพทย์ทันทีเพื่อรับการตรวจเพิ่มเติมและคำแนะนำในการรักษา

    การให้ความรู้และการสร้างความตระหนัก

    การป้องกันและการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับโรคเบาหวานและภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจำเป็นต้องเริ่มต้นจากการให้ความรู้และการสร้างความตระหนักให้กับตัวเองและคนรอบข้าง การทำความเข้าใจถึงความเสี่ยงและอาการที่เกี่ยวข้องกับน้ำตาลในเลือดสูงจะช่วยให้เราสามารถป้องกันโรคเบาหวานและรักษาสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    นอกจากนี้ การเข้าร่วมกิจกรรมให้ความรู้ด้านสุขภาพ เช่น การอบรมเรื่องโภชนาการและการออกกำลังกาย การเรียนรู้วิธีการอ่านฉลากอาหาร หรือการเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนผู้ป่วยเบาหวาน จะช่วยให้ผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงได้รับการสนับสนุนและความรู้ในการดูแลสุขภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น

ปรึกษาเราก่อนได้
>> ◕ กดคลิก <<

โปรแกรมตรวจสุขภาพพื้นฐาน

“ลดความเสี่ยงด้านสุขอนามัย และด้านการเงินรักษาพยาบาล”

✔  เพื่อใช้เป็นแนวทางหรือวางแผนดูแลระดับโปรตีนให้เหมาะสมกับร่างกายคุณ

✔  ให้คุณดูแลสุขภาพได้ยั่งยืนด้วยวิธีการที่เหมาะสมสำหรับคุณ
ตรวจสุขภาพพร้อมคำแนะนำโดยทีมนักเทคนิคการแพทย์

ปรึกษาเราก่อนได้
>> ◕ กดคลิก <<

ข้อมูลโดย :

ทนพ. ชาญเวช ตันติกัลยาภรณ์

นักเทคนิคการแพทย์

พาธแล็บ ศูนย์ตรวจสุขภาพ สาขาแจ้งวัฒนะ

Pathlab Healthcare Center: Chaengwattana Center
Tel. [ กดโทร ]  02 573-3490-1

พาธแล็บ ศูนย์ตรวจสุขภาพ ยินดีให้คำแนะนำ เพื่อให้คุณได้รับการตรวจสุขภาพได้อย่างเหมาะสมที่สุด สามารถสอบถามทีมเจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ของเรา เพื่อขอคำแนะนำก่อนเข้ารับการตรวจได้ทาง:


ศูนย์บริการพาธแล็บ  [ ◕ กดโทร ]  02 619-2299 หรือ 02 619-2288


Facebook Inbox  [ ◕ กดคลิก ]  th.pathlab.link/inbox


LINE Official  [ ◕ กดคลิก ]  th.pathlab.link/LINE

Website  [ ◕ กดคลิก ]  www.pathlab.co.th


Location สาขาใกล้ๆ คุณ  [ ◕ กดคลิก ]  th.pathlab.link/google-maps

อ้างอิงจาก:

  • กระทรวงสาธารณสุข. (2566). แนวทางการป้องกันและควบคุมโรคเบาหวาน. สืบค้นจาก เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข
    https://www.moph.go.th/
  • องค์การอนามัยโลก (WHO). (2023). Diabetes. สืบค้นจาก WHO Diabetes Fact Sheet
    https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/diabetes
  • สมาคมเบาหวานแห่งประเทศไทย. (2565). ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโรคเบาหวาน. สืบค้นจาก เว็บไซต์สมาคมเบาหวาน
    https://www.dmthai.org/new/